TPE หรือ Thermoplastic Elastomer คือเทอร์โมพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นและสมบัติเชิงกลคล้ายยาง แต่สามารถขึ้นรูปได้ด้วยกระบวนการทางพลาสติก เช่น injection หรือ extrusion moulding อีกทั้งยังสามารถรีไซเคิลได้อีกด้วย
ข้อดีของ TPE เมื่อเทียบกับยาง
1. สามารถใช้กระบวนการขึ้นรูปเหมือนเทอร์โมพลาสติกทั่วไปได้ เช่น injection moulding, extrusion moulding และ blow moulding เป็นต้น
2. ใช้เวลาในการผลิตผลิตภัณฑ์น้อยกว่ายาง
3. ใช้พลังงานในการผลิตน้อยกว่ายาง
4. ไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนการ curing
5. สามารถทำผลิตภัณฑ์ที่มีสีสันที่หลากหลาย
6. สามารถทำ over moulding กับพลาสติกชนิดอื่นได้
7. สามารถรีไซเคิลได้ 100%
คุณสมบัติทั่วไปของ TPE
1. มีความทนต่อความล้าจากการโค้งงอ (Flexural fatigue resistance) ที่ดีเยี่ยม
2. มีความทนต่อสารเคมีและสภาพอากาศที่ดีเยี่ยม
3. มีความต้านทานการฉีกขาด (Tear resistance) และความต้านทานการขัดสี (Abrasion resistance) ที่ดี
4. มีความต้านทานการนำไฟฟ้าดี
5. มีความต้านทานแรงกระแทกสูง
6. มีความยืดหยุ่นสูง (Compression set ต่ำ)
7. มีความหนาแน่นต่ำ
8. สามารถใช้งานได้ที่ช่วงอุณหภูมิกว้าง ประมาณ -30°C ถึง 140°C
9. สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายสี
10. สามารถรีไซเคิลได้
11. สามารถขึ้นรูปได้เหมือนพลาสติกทั่วไป
ประเภทของ TPE
1. Styrenic Block Copolymers (TPE-S) โดยที่นิยมในตลาดคือ SBS (Styrene Butadiene Block Copolymer) และ SEBS (Styrene Ethylene Butadiene Block Copolymer) TPE-S นิยมใช้ในอุตสาหกรรมรองเท้า กาว และซีลที่ไม่ได้ต้องการสมบัติเชิงกลที่สูงมากนัก
2. Thermoplastic Polyolefins (TPE-O หรือ TPO) โดยส่วนใหญ่ TPO จะเป็นพอลิเมอร์ผสมระหว่าง PP กับยาง EPDM ที่ยังไม่ผ่านการ crosslink ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เมื่อต้องการเพิ่มความเหนียว หรือการทนแรงกระแทกที่มากกว่า PP อาทิเช่น ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ชิ้นส่วน bumper และ dashboard เป็นต้น
3. Thermoplastic vulcanisates (TPE-V หรือ TPV) เป็น TPE ที่พัฒนามาจาก TPO โดยเป็นพอลิเมอร์ผสมระหว่าง PP กับ EPDM เหมือนกัน แต่ในระหว่างกระบวนการผสมมีการเกิด dynamic vulcanization ทำให้มีความทนความร้อนและทนสภาวะอากาศได้ดีกว่า TPO
4. Thermoplastic polyurethanes (TPE-U หรือ TPU) มี polyester หรือ polyether urethane เป็นองค์ประกอบ ส่วนใหญ่ใช้ในงานที่ต้องการการทนการขัดถู การทนการฉีกขาดและการทนการโค้งงอ เช่น อุตสาหกรรมรองเท้า สายพานอุตสาหกรรม สายไฟและสายาเคเบิล เป็นต้น
5. Thermoplastic copolyesters (TPE-E หรือ COPE หรือ TPEE) เป็น TPE ที่มีความทนเคมีสูง และสามารถทนความร้อนได้สูงที่สุดถึง 140°C
6. Thermoplastic polyether block amides (TPE-A) เป็น TPE ที่มีการทนสารเคมีและความร้อนสูง และสามารถติดกับ polyamide ได้ การนำไปใช้งานส่วนใหญ่จะใช้สำหรับงานชิ้นส่วนอากาศยาน (aerospace)
7. Melt processable rubber (MPR) เป็น TPE ที่เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการการทนสารเคมี ทนน้ำมันและ grease บางส่วน โดยส่วนมากจะนำไปใช้ทนแทนยาง NBR อีกทั้งยังสามารถนำไปติดกับ PVC , PC หรือ ABS ได้อีกด้วย
|